เทคโนโลยีใหม่เพื่อสมาร์ทโฟนแห่งอนาคต

เทคโนโลยีใหม่เพื่อสมาร์ทโฟนแห่งอนาคต

     1.  เทคโนโลยี Augmented Reality

      AR ย่อมาจาก Augmented Reality ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่นำเอาภาพเสมือน 3 มิติจำลองเข้าสู่โลกจริงผ่านกล้องและมีการประมวลผลโดยการทำให้วัตถุ 3 มิติ (ภาพเสมือน) ทับซ้อนเข้ากันกับภาพจริงเป็นภาพๆเดียว โดยเราสามารถมองผ่านกล้องได้โดยตรงเลย
      
      ซึ่งเมื่อเราได้ยินคำว่า AR ก็มักจะได้ยินร่วมกับคำว่า VR ซึ่งย่อมาจาก Virtual Reality เป็นเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน ต่างกันที่ VR คือการจำลองโลกเสมือนขึ้นมาและเข้าถึงได้จากอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น แว่น Oculus Rift, Play Station VR 

AR สามารถแบ่งแยกชนิดหลักๆ ได้ 2 ชนิดหลักๆ คือ
      Marker-Based : ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบเครื่องหมาย สัญลักษณ์ต่างๆ เป็นใบปลิว โบรชัวร์ต่างๆ ผู้ใช้ทำการ scan ด้วยกล้องจากตัว smartphone เพื่อแสดงภาพ 3 มิติ
      Location-Based : ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องใช้ smartphone scan จากภาพ เพียงแค่ใช้ GPS ของเครื่องนั้นๆ ก็สามารถแสดงภาพ 3 มิติได้
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Arผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Ar
  à¸œà¸¥à¸à¸²à¸£à¸„้นหารูปภาพสำหรับ Ar



    2. หน้าจอแสดงผลที่สามารถบิดงอได้

4            HoloFlex คือชื่อของสมาร์ทโฟนเครื่องต้นแบบ ที่ทีมนักวิจัย Human Media Lab จากมหาวิทยาลัยควีนส์ ประเทศแคนาดาได้พัฒนาขึ้นมา โดยตัวอุปกรณ์นั้นจะไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไป เพียงแต่มีหน้าจอที่โค้งงอในระดับหนึ่ง ซึ่งทางทีมงานได้เลือกใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า FOLED (Flexible Organic Light Emitting Diode) ที่ถูกปรับแต่งให้มีชิ้นส่วนเลนส์ขนาดเล็กแทรกอยู่ภายในหน้าจอ โดยชิ้นเลนส์เหล่านี้จะสามารถแสดงสภาพแสงที่แตกต่างกันได้ในหลากหลายทิศทาง 
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ การแสดงผลมิติความลึกของชั้นวัตถุที่ปรากฏบนหน้าจอโค้งงอออกมา ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นภาพสามมิติลอยออกมาโดยที่ไม่จำเป็นต้องสวมแว่นตา 3D หรือใช้เทคโนโลยี Head Tracking แต่อย่างไร นอกจากนั้นยังได้มีการติดตั้ง Bend Sensor ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการเคลื่อนที่ของวัตถุตามแนวแกน Z เพียงบิดตัวเครื่องให้โค้งงอได้อีกด้วย




        3. ภาพฮอโลกราฟี (Holograms)

      โฮโลกราฟีเป็นเทคนิคที่ช่วยให้สนามของแสงซึ่งโดยทั่วไปผลิตผลของแหล่งกำเนิดแสงที่กระเจิงออกจากวัตถุที่จะได้รับการบันทึกและสร้างขึ้นใหม่ในภายหลังเมื่อสนามของแสงที่เป็นต้นฉบับดั้งเดิมเป็นปัจจุบันนั้นไม่มีอีกต่อไปเนื่องจากขาดหายไปของวัตถุที่เป็นต้นฉบับดั้งเดิม

                     
                หลักการของ HOLOGRAM
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Hologram     ภาพฮอโลแกรมจะใช้หลักการสร้างภาพให้มีการแทรกสอดของแสงที่มากระทบรูปภาพ โดยการฉายแสงเลเซอร์จากแหล่งเดียวกัน แยกเป็น 2 ลำแสง ลำแสงหนึ่งเป็นลำแสงอ้างอิงเล็งตรงไปที่แผ่นฟิล์ม อีกลำแสงหนึ่งเล็งไปที่วัตถุและสะท้อนไปยังฟิล์ม แสงจากทั้งสองแหล่งจะถูกบันทึกไว้บนฟิล์มในรูปแบบของการแทรกสอด (INTERFERENCE PATTERN) ซึ่งมองไม่คล้ายกับรูปของวัตถุต้นแบบ ก่อให้เกิดภาพเสมือน (VIRTUAL IMAGE) ขึ้นมาตามมุมของแสงที่มาตกกระทบ ทำให้ตาของเรารับแสงอีกด้านหนึ่งของแผ่น HOLOGRAM เกิดเห็นภาพ 3 มิติขึ้น

  การสร้างฮอโลแกรมแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน ดังนี้
(1) การบันทึกภาพ (RECORDING OF IMAGE) เป็นการบันทึกแถบการสอดแทรกเชิงซ้อน (COMPLEX INTERFERENCE PATTERNS) ซึ่งเกิดจากที่แต่ละแสงเลเซอร์ 2 ลำแสงซ้อนทับกันอยู่ (SUPERPOSITION) แถบการสอดแทรกเชิงซ้อนนี้จะถูกบันทึกไว้บนฟิล์มถ่ายรูป (PHOTOGRAPHIC FILM)
(2) การสร้างภาพ (RECONSTRUCTION OF IMAGE) เป็นการสร้างภาพ  3 มิติ ขึ้นจากแผ่น
400px-holograph-record-svg

การบันทึกภาพโฮโลแกรม


300px-holography-reconstruct-svg

การแสดงภาพโฮโลแกรม


             4.เทคโนโลยี Dolby Vision 
     
Dolby Vision เป็นมาตรฐานการแสดงผลวิดีโอแบบ HDR ของบริษัท Dolby Laboratories ที่แข่งกับมาตรฐาน HDR10 อย่างไรก็ตาม ถ้าเทียบกันแล้ว Dolby Vision อาจไม่ได้รับความนิยมมากเท่ากับ HDR10
ล่าสุด Dolby เผยว่าจะออก Dolby Vision เวอร์ชันที่เป็นซอฟต์แวร์อย่างเดียวด้วย นั่นแปลว่าสมาร์ททีวีหรือกล่องทีวีต่างๆ สามารถอัพเดตความสามารถให้รองรับ Dolby Vision ได้ด้วย (ตัวอย่างที่ Dolby เคยนำมาโชว์คือ PS4 ที่รองรับ Vision)
ตอนนี้ Dolby ยังไม่ประกาศรายชื่ออุปกรณ์ทั้งหมดที่จะได้รับ Dolby Vision แต่ในเบื้องต้นก็มีทีวี Sony และเครื่องเล่น Blu-ray ของ Oppo

No Description





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น